Superstitious Pregnancy MYTHS
- Mommy Lee
- Jan 25, 2021
- 1 min read
ท้องแรก กับความเชื่อโบราณ
เมื่อมีท้องแรกก็จะมีคำแนะนำเยอะแยะไปหมดโดยเฉพาะ ความเชื่อในสมัยโบราณ แล้วจะเชื่อได้แค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับตัวคุณแม่นะคะ ของแบบนี้ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ วันนี้มาดูกันค่ะว่ามีความเชื่ออะไรบ้าง
ความเชื่อโบราณ ในช่วงตั้งครรภ์
1. ดื่มน้ำมะพร้าวอ่อน ทารกจะผิวดี มีความเชื่อต่อๆ กันมาจนถึงทุกวันนี้ว่าการดื่มน้ำมะพร้าวอ่อนระหว่างตั้งครรภ์นั้นจะทำให้เด็กทารกที่คลอดมามีผิวพรรณสะอาดเกลี้ยงเกลา
ซึ่งในเรื่องนี้นั้นยังไม่มีงานวิจัยออกมายืนยันอย่างชัดเจนว่าเท็จจริงนั้นเป็นอย่างไรแต่เคยมีงานวิจัยของเมืองนอกชิ้นหนึ่งออกมาว่าในน้ำมะพร้าวมีสารชนิดหนึ่งซึ่งช่วยให้มดลูกบีบตัว ดังนั้นหากหญิงมีครรภ์ดื่มน้ำมะพร้าวเข้าไปสารตัวนี้ก็จะไปช่วยให้มดลูกบีบรัดรก ทำให้เกิดมีการคล้ายๆ ชะล้างเกิดขึ้น
2. ห้ามนอนหงายเพราะรกจะติดหลังแล้วคลอดออกมาไม่ได้
เรื่องนี้น่าเป็นการเข้าใจผิดของคนในสมัยก่อน ซึ่งไม่มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องรกในร่างกาย รกจะไม่เกาะติดกับหลังของเรา เพราะรกอยู่ในมดลูก รกจะเกาะติดด้านหน้าหรือด้านหลังของมดลูกก็ได้ไม่มีอันตรายใดๆ
ที่จะมีอันตรายคือ รกเกาะต่ำ โดยรกมาเกาะด้านล่างบริเวณปากมดลูก ซึ่งทำให้มีเลือดออกทางช่องคลอดได้ ตอนท้องโตการนอนหงายมดลูกจะไปกดทับเส้นเลือดดำใหญ่ ซึ่งอยู่ด้านหลังมดลูกได้ ทำให้ความดันโลหิตต่ำลง และเลือดไปหล่อเลี้ยงมดลูกน้อยลง ก็แนะนำให้นอนตะแคง
3. ห้ามไปงานศพ
หญิงตั้งท้องในระหว่างรอคลอดอย่าเครียด และแสดงอาการวิตกเพราะจะส่งผลต่อทารกน้อยในครรภ์ ควรทำใจให้มีความสุขยิ้มแย้มเด็กเกิดมาจะได้มีสุขภาพกายและใจที่แข็งแรง
น่าแปลกที่ความเชื่อเรื่องนี้ปรากฏมีตรงกันแทบทุกท้องถิ่นของประเทศไทยแตกต่างกันเฉพาะเหตุผลที่ไม่อนุญาตหรือห้ามคนตั้งครรภ์ไม่ให้ไปร่วมงานเท่านั้นที่ไม่ตรงกัน เช่น บางที่ให้เหตุผลว่า " กลัวมีวิญญาณร้ายจากสุสานติดตามมา " บางท้องที่ก็บอกว่า " กลัวผีเข้า "
แต่โดยสรุปแล้วก็เพื่อให้คุณแม่ตั้งครรภ์ได้พักผ่อนมากกว่านะคะ
4. ห้ามออกกำลังกาย หรือ ควรออกกำลังกาย
คงเป็นเพราะในระหว่างการตั้งครรภ์คุณแม่ส่วนใหญ่มักมีอาการแพ้ท้อง คลื่นไส้อาเจียน ดังนั้น ในสมัยก่อนบางท้องถิ่นจึงมองว่าการตั้งครรภ์นั้นเหมือนเป็นการเจ็บป่วยชนิดหนึ่ง ซึ่งต้องการการพักผ่อนห้ามออกแรงในเรื่องนี้
แต่การออกกำลังกายสม่ำเสมอในระหว่างการตั้งครรภ์ ก็สามารถเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ช่วยให้คลอดง่ายและหลังคลอดแล้วร่างกายจะคืนสู่สภาพปกติรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม สตรีมีครรภ์ควรออกกำลังกายอย่างระมัดระวัง และพอเหมาะภายใต้คำแนะนำของแพทย์นะคะ
5. ห้ามกินกล้วยน้ำว้า เพราะจะทำให้คลอดยาก
กล้วยน้ำว้าเป็นกล้วยที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง สาเหตุที่คนโบราณห้ามไม่ให้คนท้องกินนั้นน่าจะมีหลายสาเหตุ อย่างเช่น กลัวเด็กจะตัวโตแล้วคลอดยาก เพราะในสมัยก่อนยังไม่มีการผ่าตัดทำคลอด หากเด็กในท้องอ้วนท้วนสมบูรณ์เกินไปจะเป็นอันตรายต่อทั้งแม่และลูกได้นั่นเอง
อีกอย่างนั้นคือ ในกล้วยสุกๆ จะหวานมีแป้งมาก กินสองสามลูกก็จะรู้สึกอิ่มจนไม่อยากกินอย่างอื่น ทำให้ขาดสารอาหารได้ นอกจากนี้ การกินกล้วยห่ามๆ ไม่สุกจะทำให้เกิดอาการท้องผูก อาการท้องผูกนั้นเป็นปัญหาของคนท้องอยู่แล้ว ยิ่งกินกล้วยห่ามๆ เข้าไปจะทำให้มีปัญหาเรื่องท้องผูกมากยิ่งขึ้น
6. ห้ามกินเนื้อวัว เพราะเชื่อว่าจะทำให้เนื้อตัวทารกที่เกิดใหม่ จะเต็มไปด้วยไขมันล้างออกยาก
โภชนาการสมัยใหม่ไม่ได้ห้ามไม่ให้คนท้องกินเนื้อวัวแต่ควรระมัดระวังเพราะโดยปกติแล้วคนส่วนใหญ่ที่กินเนื้อวัวมักจะไม่ชอบกินสันในแต่ชอบกินเนื้อติดมัน ซึ่งจะทำให้อ้วนมีไขมันเยอะ
7.ห้ามกินหอยทุกประเภท
คนโบราณห้ามคนท้องกินหอยทุกประเภท เพราะมีความเชื่อว่า เวลาคลอดจะมีกลิ่นคาว และคลอดยากเหมือนหอยที่ติดอยู่ในเปลือก
แต่โภชนาการคนท้องสมัยนี้ไม่มีข้อห้ามไม่ให้คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์กินหอยเพราะหอยส่วนใหญ่จะให้คุณค่าให้สารไอโอดีนสูงคุณแม่ควรจะกินเพื่อป้องกันการขาดสารไอโอดีน
ยกเว้นแต่คุณแม่ตั้งครรภ์ในรายที่มีไขมันในเลือดสูง ควรงดกิน โดยเฉพาะหอยนางรมที่มีคอเรสเตอรอลสูงมาก
8. ห้ามกินผักที่เป็นเครือเถา
คนโบราณในบางท้องที่เช่นทางภาคเหนือจะห้ามไม่ให้คนท้องกินผักที่มีลักษณะเป็นเครือเถา เช่นผักตำลึง ยอดฟักทอง
น่าจะมาจากการที่คนสมัยก่อน ประสบกับตัวเองว่าเห็นคนที่กินอาหารประเภทนี้แล้วมีอาการปวดขา ตามหลักโภชนาการแล้วน่าจะมีส่วนเพราะในผักยอดอ่อนจะมีสาร purin สูง สารนี้เมื่อทำการย่อยจะกลายเป็นกรดยูริก ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคเก๊าส์ได้ ส่วนคนที่กินแล้วไม่เกิดอาการใดๆนั้นควรจะทานผักเยอะๆ เพราะช่วยให้การขับถ่ายง่ายขึ้น
9.การติดเข็มกลัดตรงท้อง
จริง ๆ แล้วเป็นกุศโลบายของคนโบราณที่จะให้คนท้องระวังตัว และคนไม่ท้องก็จะได้สังเกตเห็นและระมัดระวังไม่ให้เกิดอันตรายกับคนท้องด้วย
เวลาคนท้องกลัดเข็มกลัดเอาไว้ เวลาเดินไปไหน คนจะสังเกตเห็นได้ง่าย และรู้ว่ากำลังท้องอยู่ เพราะแม่ท้องบางคนตัวเล็กท้องไม่ค่อยออก คนก็ไม่รู้ว่าท้อง ส่วนแม่บางคนตัวใหญ่ คนก็นึกไปว่า คนนี้อ้วนหรือเปล่า
ดังนั้นติดเข็มกลัดไว้ที่พุงให้เด่นๆ คนจะได้ระมัดระวังไม่ชน ไม่กระแทกให้เป็นอันตราย นอกจากนี้ หากโดยสารรถสาธารณะ คนจะได้สังเกตเห็นและลุกให้นั่งทันทีเตือนตัวแม่ท้องเองให้ระมัดระวังมากขึ้น นอกจากเตือนคนอื่นแล้ว แม่ท้องต้องเตือนตัวเองด้วย แม่บางคนติดเดินเร็ว ยกของหนัก โดยลืมไปว่าตนเองกำลังท้องอยู่ เมื่อติดเข็มกลัดไว้ที่ท้อง เป็นการเตือนตนเองให้ระวังอิริยาบถ หรือการทำกิจกรรมใด ๆ ที่อาจเป็นอันตรายต่อตนเองและลูกในท้องได้
จะว่าไปแล้วความเชื่อก็มีประโยชน์อยู่ไม่น้อย เพราะฉะนั้นทำตามก็ไม่เสียหายนะคะ
Comments