Baby's heartbeat

ท้องสัปดาห์ที่ 8-9 กับเสียงหัวใจของลูก สัปดาห์ที่ 8 นี้ใบหน้าของลูกในท้องตอนนี้จะเริ่มเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น หู ปากส่วนบน และปลายจมูกเริ่มเป็นรูปเป็นร่างอย่างชัดเจนแขนขาเริ่มงอกเป็นตุ่มออกมาจากลำตัว ปลายของตุ่มแขนตุ่มขาจะมีร่องเล็ก ๆ ที่จะกลายเป็นมือและเท้าต่อไป

ในสัปดาห์นี้ ร่างกายจะเริ่มมีการสร้างเปลือกตา และต่อมรับรสหัวใจ และกระดูกมีความแข็งแรงขึ้น เซลล์ประสาทต่าง ๆ ในสมองเริ่มพัฒนาและเติบโตมากขึ้นส่วนที่ดูเหมือนหางตอนนี้เริ่มสั้นลงจนเกือบจะหายไปแล้ว

#สิ่งที่จะทำให้คุณแม่มือใหม่ตื่นเต้นมากที่สุดก็คือ ได้ยินเสียงหัวใจเต้นของลูก

พอเข้าช่วงสัปดาห์ที่ 8 – สัปดาห์ที่ 9 ช่วงนี้ลูกน้อยจะมีอัตราการเต้นของหัวใจเฉลี่ยอยู่ที่ 175 ครั้งต่อนาที ซึ่งเป็นช่วงที่คุณแม่ไปอัลตราซาวด์ เชื่อว่าวินาทีนั้น คุณพ่อคุณแม่หลายคนคงปลาบปลื้มจนบรรยายไม่ถูกเลย หลังจากนั้นก็จะเต้นช้าลงอย่างต่อเนื่องจนถึงระดับปกติช่วงกึ่งกลางการตั้งครรภ์ที่ประมาณ 120-180 ครั้งต่อนาทีค่ะ จนกระทั่งตั้งครรภ์ในช่วง 10 สัปดาห์สุดท้าย แต่ยังคงมีอัตราการเต้นของหัวใจที่มากเป็น 2 เท่าของคุณแม่อยู่ไม่ต้องตกใจ

ทำอย่างไรถึงจะได้ยินเสียงหัวใจลูกในท้อง

ปัจจุบันสามารถใช้เครื่องมือต่างๆ ในการฟังเสียงการเต้นของหัวใจทารก ดังต่อไปนี้

1.ใช้เครื่อง Ultrasonic Doppler ในการช่วยฟังการเต้นของหัวใจทารกได้ แต่ทั้งนี้อาจจะได้ยินเสียงหัวใจของลูกในช่วงสัปดาห์ที่ 10 หรือ 12 ค่ะ

2.ใช้หูฟังของแพทย์ธรรมดา วิธีนี้จะเริ่มได้ยินเสียงหัวใจทารกเมื่ออายุครรภ์ 17-19 สัปดาห์ โดยจะได้ยินเสียงหัวใจทารกเป็นเสียงตุบๆ หรือคล้ายกับเสียงติ๊กๆ ของนาฬิกาที่อยู่ใต้หมอน

3.Real time sonography สามารถตรวจการเต้นของหัวใจทารกและการเคลื่อไหวของทารก หลังจากเดือนที่ 2 ของการตั้งครรภ์

4.Echocardiography สามารถฟังเสียงเต้นของหัวใจทารกได้ตั้งแต่ 48 วันหลังประจำเดือนมาครั้งสุดท้าย

คุณแม่บางคนอาจเป็นกังวลว่าทำไมฉันไม่ได้ยินเสียงหัวใจของลูกในท้องเลย อันดับแรกก็คืออุปกรณ์ที่ใช้ฟังเสียงลูกในท้องก่อนซื้อคุณพ่อคุณแม่อาจจะต้องถามจากเภสัชกรอีกครั้งว่าจะได้ยินเสียงลูกในท้องช่วงสัปดาห์ที่เท่าไหร่

อีกสาเหตุหนึ่งก็อาจมาจาก การที่คุณแม่ใช้อุปกรณ์ไม่ถูกตำแหน่งของทารกในครรภ์

สุดท้าย ถ้าคุณแม่ไม่ได้ยินเสียงหัวใจลูก พร้อมๆ กับมีเลือดออก ลูกในท้องอาจจะผิดปกติได้ ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้ แนะนำให้คุณแม่ไปตรวจเช็คกับคุณหมออีกที อย่านิ่งนอนใจนะคะ

เสียงหัวใจของลูกคือน้ำหล่อเลี้ยงกำลังใจแม่