top of page

6 Tips .. Kids learn 2nd language

6 เคล็ดลับ ฝึกให้ลูกเก่งภาษา เมื่อลูกเริ่มโตขึ้นมาหน่อยพ่อแม่ก็เริ่มวาดความหวังให้ลูกเก่ง และเรื่องภาษาก็เป็นอันดับต้นๆเลยค่ะ ที่พ่อแม่อยากให้ลูกเก่งภาษา พูดได้มากกว่า 1 หรือ 2 หรือ 3 ภาษา

ถ้าที่บ้านเป็นครอบครัวสองภาษาแท้อยู่แล้วก็มักไม่มีปัญหา การฝึกภาษาให้ลูก ส่วนใหญ่จะเหมาะกับครอบครัวที่เป็นสองภาษาแท้ เช่นพ่อแม่เป็นคนไทย แต่อาศัยต่างประเทศ หรือครอบครัวที่ให้ลูกเรียนโรงเรียนอินเตอร์ คือพูดภาษาไทยที่บ้าน แต่ออกนอกบ้านพูดภาษาอังกฤษ พูดภาษาไทยที่บ้านแต่พูดภาษาอังกฤษที่โรงเรียน หรือแบบที่พ่อแม่พูดภาษาอังกฤษที่บ้านกับลูกทั้งคู่ แต่เมื่อไปนอกบ้านหรือสังคมต่างๆ ก็ให้ลูกใช้ภาษาไทยเป็นปกติ

และถ้าวันนี้พ่อแม่อยากจะฝึกให้ลูกเก่งภาษาจะทำไงดี วันนี้เรามีคำแนะนำมาฝากค่ะ

1. สร้างแรงบันดาลใจให้เด็กโต

สำหรับการสร้างลูก 2 ภาษาในเด็กที่โตขึ้น คือเด็กจะพูดภาษาไทยเก่งแล้วอาจจะ 3 ขวบ ก็สามารถสอนได้ แต่เด็กช่วงนี้เขาพูดภาษาแม่แข็งแรงแล้ว เขาจึงอาจจะไม่อยากพูดอีกหนึ่งภาษา เพราะฉะนั้นหลักของแนวคิดเด็ก2 ภาษาในช่วงนี้ก็คือ คุยกับลูกก่อนว่า หนูต้องพูดภาษาอังกฤษด้วยเหตุผลอะไร คุณพ่อคุณแม่ต้องไปคุยกับเขาก่อนวางเป้าหมายและแรงบันดาลใจให้กับลูก เช่นสมมุติเป็นเด็กผู้หญิงก็คือ ถ้าหนูพูดภาษาอังกฤษได้หนูจะได้ไปเจอเจ้าหญิงอยู่ในนิทานเจอ เอลซ่า เจอ สโนไวท์ พวกนั้นเขาพูดภาษาอังกฤษกัน เราต้องสร้างแรงบันดาลใจผูกกับเงื่อนไขคือ ถ้าลูกไม่รับแล้วต่อต้านก็จบ พ่อแม่จะสอนไม่ได้เลย ต้องผ่านด่านการสร้างแรงบันดาลใจชักจูงให้ลูกชอบและใช้ภาษาไปด้วยกันกับเราให้ได้ก่อนด้วย

2. สอนภาษาลูกให้เป็นเรื่องสนุก

ข้อนี้สำคัญมาก คือการสอนที่สนุก ไม่เคร่งเครียดเพราะความเครียดจะทำให้ลูกไม่มีความสุข สรุปง่ายๆลูกต้องสนุกและพ่อแม่ต้องสนุกด้วย เพราะว่าการสอนภาษาพ่อแม่ต้องสอนลูกยาวนาน ต้องใช้เวลาสร้างลูก เมื่อเขาเรียนรู้อย่างสนุก พ่อแม่สนุกกับเขา เขาก็จะมีความสุข รู้สึกว่าเวลาพูดภาษาอังกฤษกับพ่อแม่แล้วมีความสุขทุกครั้ง

3. สอนลูกโดยไม่แปล

คือ การไม่สอนคำศัพท์ภาษาอังกฤษพร้อมคำแปล เช่น Cat คือ แมว แล้วให้ลูกท่องคำศัพท์ ซึ่งเด็กควรจะเห็นแมวเดินมาแล้วพูดว่า แคท ได้เลยจะดีกว่า ดังนั้นการสอนจึงต้องสินให้เด็กรู้จักศัพท์และชี้ไปที่สิ่งนั้นโดยตรงแล้วใช้คำอธิบายเป็นภาษาอังกฤษร่วมด้วย ทั้งพ่อแม่และลูกก็จะสนุกร่วมกัน

4. เน้นการพูด และประสบการณ์ร่วมกัน

การสื่อสารที่ดีสุดก็คือ การพูด พ่อแม่ต้อง หมั่นทำซ้ำๆ ตรงนี้ ให้เป็นกิจวัตรประจำวัน และเป็นต้นแบบให้ลูกเลียนแบบ

แต่ถ้าคุณพ่อคุณแม่ให้ลูกไปอยู่กับไอแพด สิ่งที่เกิดขึ้นพ่อแม่และลูกจะฟังได้แต่คุณและลูกจะพูดไม่ได้หรือพยายามจะพูดจนเคอะเขินในการออกเสียงหรือออกเสียงไม่ถูก อาจเริ่มง่ายๆ จากกิจวัตรประจำวันที่ลูกทำกับพ่อแม่ เช่น กินอาหาร อาบน้ำ แปรงฟัน ฯลฯ เช่น เริ่มจากให้ลุกรู้จักคำว่า เตียง พ่อแม่ชี้ไปที่เตียงก่อนนอนทุกวันแล้วสอนว่า Bed ให้เขารู้ว่าเวลานอนคือ sleep จากนั้นก็ค่อยเริ่มเป็นประโยค It’s bed time เขาก็จะรู้ว่าต้อง Sleep แล้ว

5. สิ่งแวดล้อมก็สำคัญ

เด็กจะตอบสนองกับการทำซ้ำและความถี่ ดังนั้นหากคุณพ่อคุณแม่ให้ลูกอยู่ในสิ่งแวดล้อมหรือพื้นที่ที่มีความถี่ของภาษาไหน ลูกก็จะเรียนรู้และตอบสนองต่อภาษานั้นได้ดีมากตามไปด้วย พร้อมกับเรียนรู้อย่างสนุกมีความสุข เห็นภาพ

6. ไม่ควรใช้ดิจิตอลเป็นตัวช่วยหลัก

นั่นคือใช้เทคโนโลยีดิจิตอล เป็นตัวช่วยในการสอนภาษาให้กับลูก แต่ให้พ่อแม่ใช้ไม่ใช่ใช้กับลูกเป็นตัวหลัก คือพ่อแม่ต้องพูดต้องสอนลูกด้วยตัวเอง ไม่ใช่เปิดการ์ตูนฝรั่งให้ลูก เพราะการทำสิ่งนี้จะไม่มีประโยชน์ไม่เกิดผลถ้าพ่อแม่ไม่สอน ไม่พูดกับลูก เพราะลูกอาจจะรู้เรื่องเข้าใจ แต่ไม่สามารถสื่อสารได้ พูดโต้ตอบในสิ่งที่ต้องการกับพ่อแม่ได้ เพราะการให้ลูกเล่นอุปกรณ์ดิจิตอลต่างๆ จะทำให้ลูกได้รับการสื่อสารทางเดียว ลูกก็จะพูดไม่ได้ไม่ว่าจะเป็นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ

***หวังว่าแนวทางเหล่านี้จะเป็นประโยชน์นะคะ

Commenti


0886926209

Bangplee Yai, Bangplee, Samutprakarn 10540
©2021 Tokyo Cream. By MONOLIFE co.,ltd.

bottom of page