Baby Development

พัฒนาการของลูก ช่วง 4-9 สัปดาห์แรก คุณแม่มือใหม่จะมีความกังวลเกิดขึ้นแทบจะทุกคนในช่วง4-8 สัปดาห์แรก เพราะไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรดี และวันนี้เรามาทำความเข้าใจถึงพัฒนาการอายุครรภ์ของคุณแม่กันค่ะ

พัฒนาการของลูกในครรภ์

ในช่วงแรกของการตั้งครรภ์ถุงน้ำคร่ำจะทำหน้าที่เลี้ยงดู สร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง ส่งสารอาหารสำคัญและออกซิเจนให้ตัวอ่อนในช่วงเวลาสั้นๆ ต่อมาเมื่อรกพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ก็จะทำหน้าที่นี้ต่อตัวอ่อนขนาดจิ๋วได้ฝังตัวเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของผนังมดลูก และแบ่งตัวต่ออย่างไม่หยุดยั้ง

จนกลายเป็นกลุ่มเซลล์จำนวนมาก รวมกันเป็นแท่งยาว ความยาวของตัวอ่อนในช่วง1 เดือนแรก จะยาวเพียง ¼ นิ้วเท่านั้น ซึ่งจะประกอบไปด้วยเนื้อเยื่อ 3 ชนิด คือ 1.เนื้อเยื่อที่เจริญต่อไปเป็นผม เล็บ หูส่วนใน เลนส์ตา เป็นต้น 2.เนื้อเยื่อที่จะพัฒนาเป็นระบบประสาท จอตา ต่อมใต้สมอง กระดูก กล้ามเนื้อ เซลล์เลือดเซลล์น้ำเหลือง 3.เนื้อเยื่อที่จะพัฒนาไปเป็นปอด หลอดลม ระบบทางเดินอาหาร ตับ ตับอ่อนกระเพาะปัสสาวะ เป็นต้น

ช่วงนี้รกจะสร้างฮอร์โมนของการตั้งครรภ์หรือ HCG (Human Chorionic Gonadotropin )ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ทำให้รังไข่หยุดการตกไข่ชั่วคราว

รังไข่จะไปสร้างฮอร์โมนที่ช่วยหล่อเลี้ยงการตั้งครรภ์มาแทนที่ คือ ฮอร์โมนเอสโตรเจนเพิ่มมากขึ้น ทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกหนาขึ้น มีเส้นเลือดไปเลี้ยงลูกน้อยที่กำลังเติบโตมากขึ้น และหน้าอกคุณแม่จะคัดตึง ต่อมน้ำนมก็จะเตรียมผลิตน้ำนมแล้ว

ในช่วงที่ทารกอายุครรภ์ได้ 6 สัปดาห์ จะมีพัฒนาการเติบโตอย่างรวดเร็ว ขนาดตัวของทารกในครรภ์ประมาณเม็ดสาคู เท่านั้นเอง หัวใจจะเต้นถี่ประมาณ 180ครั้งต่อนาทีเร็วกว่าคุณแม่ถึง 2 เท่า เพราะระบบเลือดกำลังหล่อเลี้ยงร่างกาย ลำไส้ ตับ ก็กำลังค่อยๆ สร้างขึ้นมาและจะเต้นช้าลงเมื่อทารกในครรภ์ตัวโตขึ้น

ในช่วงที่ท้องได้ 6 สัปดาห์จะเห็นอะไรบ้าง ? คุณหมออาจจะตรวจดูด้วยเครื่องอัลตราซาวนด์ เพื่อดูตำแหน่งของการตั้งครรภ์ ดูท้องนอกมดลูก ดูจำนวนทารกในครรภ์ เป็นครรภ์แฝดหรือไม่ ดูว่ามีเนื้องอกของมดลูกหรือรังไข่หรือไม่

รู้แบบนี้แล้วสบายใจขึ้นหรือยังค่ะ ช่วงแรกของการตั้งครรภ์ไม่น่ากังวลอย่างที่คิด ทำใจให้สบาย ไม่เครียดและพักผ่อนให้เพียงพอนะคะ