วันนี้เรามาเรียนรู้เรื่องการแบ่งหมวดหมู่อุตสาหกรรมและหมวดธุรกิจที่เราสามารถดูแยกในตลาดหลักทรัพย์ได้กัน
ก่อนอื่น Q. ทำไมถึงต้องมีการแยกการแบ่งกลุ่มอุตสาหกรรม และหมวดย่อยของธุรกิจนั้นๆ
A. เพราะมันง่ายต่อการเปรียบเทียบอัตราตัวเลขหลายๆตัวเวลามีการเปรียบเทียบเกิดขึ้น เช่นเทียบ Market cap. หรือเทียบยอดขาย หรือเทียบอัตราการเติมโต
บางคนจะดูแค่ภาพรวมของทุกธุรกิจทั้งประเทศ เช่นปีนี้เติมโต 2% หรือปีนี้ติดลบ 5% เทียบกับปีที่แล้ว แต่จะไม่ปลีกย่อยลงไปดูถึงกลุ่มอุตสาหกรรมว่าตัวไหนที่กำลังฉุดลงหนักๆ หรือว่าในคำว่าติดลบ ตัวไหนที่กำลังบวกอยู่บ้าง
เพราะฉนั้นหากเรารู้ว่าตลาดย่อยหมวดทางธุรกิจมาให้แล้วก็จะทำให้ง่ายขึ้นต่อการดูตัวเลขทางเศรษฐกิจมาก
กลุ่มอุตสาหกรรมจะมีทั้งหมด 8 กลุ่ม และย่อยเป็นหมวดธุรกิจทั้งหมด 28 หมวด
เริ่มด้วยกลุ่มแรกกันเลย
1. เกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร
1.1 ธุรกิจการเกษตร
1.2 อาหารและเครื่องดื่ม
2. สินค้าอุปโภคบริโภค
2.1 แฟชั่น
2.2 ของใช้ในครัวเรือนและสำนักงาน
2.3 ของใช้ส่วนตัวและเวชภัณฑ์
3. ธุรกิจการเงิน
3.1 ธนาคาร
3.2 เงินทุนและหลักทรัพย์
3.3 ประกันภัยและประกันชีวิต
4. สินค้าอุตสาหกรรม
4.1 ยานยนต์
4.2 วัสดุอุตสาหกรรมและเครื่องจักร
4.3 บรรจุภัณฑ์
4.4 กระดาษและวัสดุการพิมพ์
4.5 ปิโตรเลียมและเคมีภัณฑ์
4.5 เหล็ก
5. อสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง
5.1 วัสดุก่อสร้าง
5.2 บริการรับเหมาก่อสร้าง
5.3 กองทุนรวมอสังหาริม ทรัพย์และกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์
6. ทรัพยากร
6.1 พลังงานและสาธารณูปโภค
6.2 เหมืองแร่
7. บริการ
7.1 พาณิชย์
7.2 การแพทย์
7.3 สื่อและสิ่งพิมพ์
7.4 บริการเฉพาะกิจ
7.5 การท่องเที่ยวและสันทนาการ
7.6 ขนส่งและโลจิสติกส์
8. เทคโนโลยี
8.1 ชิ้นส่วนอิเล็กโทรนิกส์
8.2 เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
อันนี้จะเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมและหมวดหมู่ธุรกิจทั้งหมดที่มี ณ ปัจจุบัน
สำหรับใครที่มีคำถาม สามารถ PM เข้ามาสอบถามผมได้เลย เช่นธุรกิจที่ตัวเองทำอยู่ อยากรู้ว่าเปรียบเทียบกับคู่แข่งอย่างไรได้บ้าง
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่าน Blog ของผมครับ,